หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเตียงสร้าง ปี๒๕๐๐

หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเตียงสร้าง ปี๒๕๐๐

หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเตียงสร้าง ปี๒๕๐๐

รหัส : 46477 
ชื่อพระ : หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อเตียงสร้าง ปี๒๕๐๐
สถาณะ :
ราคา : โทรถาม
รายละเอียด : หลวงพ่อเตียง เดิมท่านชื่อเตียงนามสกุลสวนสนิทเป็นบุตรของนายเลี่ยม นางลำภูสวนสนิท มีพี่สาวร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๑ คน คือ นางชั้ว และหลวงพ่อเตียง เป็นคนสุดท้อง และยังมีต่างมารดา แต่ร่วมบิดาเดียวกันรวม ๙ คนด้วยกัน คือ ๑. นางม้วน ๒. นางแม้น ๓. นางเมี้ยน ๔. นางปูน ๕. นางเหลือบ๖. นายเรื่อง ๗. นายเต็ง ๘. นายแทน ๙. นายบุญธรรม หลวงพ่อเตียงเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๔ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๓ คํ่า เดือน ๓ ปีฉลู อยู่บ้านดงกลาง เลขที่ ๒๕ หมู่ ๒ ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตรท่านอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๖ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๖ คํ่า เดือน ๓ ปีกุน ณ พัทธสีมาวัดดงกลาง ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โดยมีพระครูศิลธรารักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์เจ้าอธิการปุ่น เป็นกรรมวาจาจารย์และพระปลัดเป้า เป็นอนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว อยู่ จำพรรษาที่วัดดงกลางตลอดมาเมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่วัดดงกลางนั้น ได้เคยไปเรียนหมอแผนโบราณกับหมอแก้ว อยู่ท่าบัวทอง ตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร เพื่อบำบัดโรคภัยไข้เจ็บแก่สาธุชนเป็นการสงเคราะห์แก่ประชาชนด้วยความเมตตาตลอดมาและต่อมาได้เรียนทางวัตถุมงคลทางไสยศาสตร์กับเจ้าอธิการปุ่นและต่อมาได้ไปศึกษาวิปัสสนาธุระและวัตถุมงคลกับหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ตำบลฆะมัง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ตำบลบางคลาน อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร นับว่าเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อพิธทีเดียว จึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องไสยศาสตร์มาถึงทุกวันนี้ปรากฏว่า ท่านสอบชั้นประถมปีที่ ๔ ได้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๕ ณ โรงเรียนวัดดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๒ สอบนักธรรมชั้นตรีได้ และเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๔ สอบนักธรรมชั้นโทได้ในสำนักเรียน วัดดงกลาง ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดงกลาง ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะตำบลดงป่าคำ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖ จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลดงป่าคำ เมื่อจำพรรษาอยู่วัดดงกลางนั้น ได้บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ ดังนี้ ๑. ได้ทำการรื้ออุโบสถหลังเก่าที่ชำรุดหักพังใช้ทำสังฆกรรมไม่ได้ ทำการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ จนใช้ ทำสังฆกรรมได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ ๒. ได้ทำการรื้อกุฏิหลังเก่าที่ชำรุดหักพัง ได้จัดการสร้างขึ้นใหม่ ทำด้วยไม้พื้นกระดาน สิ้นเงิน เท่าไรไม่ปรากฏ เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้อยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดดงกลางถึง ๒๘ พรรษา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๔ จึงได้รับคำสั่งจากเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ให้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดเขารูปช้างได้ปฎิสังขรณ์เสนาสนะ ดังนี้ ๑) ได้ก่อบันไดขึ้นเขาจากตีนเขาขึ้นสู่ชานบนเขา เพื่อสะดวกในการขึ้นลงของประชาชนที่จะมาเที่ยวและมาบำเพ็ญกุศลในยามปกติและเวลามีงานเทศกาลประจำปี สิ้นเงินเท่าไรไม่ปรากฏ ๒) เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้ทำการก่อสร้างกุฎินึ้ ๑ หลงั ทำด้วยไม้พื้นกระดานประมาณ ๓. เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นตรีมีนามว่าพระครูพิพัฒน์ธรรมคุณ ๔. เมื่อปี ๒๔๙๗ ได้ทำการรื้ออุโบสถหลังเก่าที่ชำรุดหักพังใช้การไม่ได้ย้ายมาสร้างใหม่ที่ไหล่เขาทางด้านเหนือโดยทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กมุงกระเบื้องเคลือบ กว้าง ๘.๐๐ เมตร ยาว ๒๔.๐๐ เมตรสิ้นเงินประมาณการก่อสร้าง ๓๕๐,๐๐๐ บาท (สามแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ผูกพันธสีมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐ ๕. เมื่อปี ๒๕๐๔ ได้ทำการรื้อศาลาการเปรียญหลังเก่าที่ชำรุดหักพังใช้การไม่ได้ ได้ทำการสร้างขึ้นใหม่ โดยเทเสาและคานล่างคานบนด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นไม้ มุงด้วยกระเบื้อง กว้าง ๑๖.๕๐ เมตร ยาว๓๓.๐๐ เมตร สิ้นเงินประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) และต่อมาคุณเฉลียว อยู่วิทยา พร้อมคุณนายได้ช่วยอุปการะและช่วยต่อเติมเทคอนกรีตเสริมเหล็กรอบนอกให้อีโดยกว้างประมาณ ๔.๕๐ เมตรประมาณ๑๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน)และเมื่อปี ๒๕๑๑ คุณเฉลียว อยู่วิทยาพร้อมคุณนายได้สร้างวิหารถวายบนยอดเขา ๑ หลัง แทนหลังเก่าที่ชำรุดหักพัง ตลอดจนสร้างบันไดขึ้นสู่ยอดเขาและสร้างเจดีย์ถวายอีก สิ้นเงินประมาณ๕๐๐,๐๐๐ บาท (ห้าแสนบาทถ้วน) ๖. เมื่อปี ๒๕๑๑ ได้ก่อสร้างเตาอบ ๑ หลัง สิ้นเงิน ๑๓๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วน) ๗. เมื่อปี ๒๕๑๒ ได้ก่อสร้างสะพานเทด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กจากเขตวัดข้างบึงสู่ตลาด สิ้นเงินประมาณ๑๓๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วน) ๘. เมื่อปี ๒๕๑๓ ได้สร้างกุฏิ ๑ หลัง ทำเป็นครึ่งตึกครึ่งไม้กว้าง ๖.๐๐ เมตร ยาว ๑๒.๐๐ เมตร แบบทรงไทยเดิม สิ้นเงินประมาณ ๑๓๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วน) ๙. คุณเฉลียว อยู่วิทยา พร้อมคุณนาย ได้สร้างกุฏิถวาย เท่ากับ ที่ทางวัดสร้างนั้น ๑ หลังสิ้นเงินประมาณ๑๓๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วน) ๑๐. เมื่อปี ๒๕๑๔ ได้สร้างกุฏิแบบทรงไทยแบบเดิมที่สร้างสิ้นเงินประมาณ ๑๓๕,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ๑๑. เมื่อปี ๒๕๑๕ ได้สร้างกุฏิแบบทรงไทยแบบเดิม ๑ หลังสิ้นเงินประมาณ ๑๓๕,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ๑๒. เมื่อปี ๒๕๑๖ ได้สร้างกุฏิแบบทรงไทยเป็นตึก ๒ ชั้น สิ้นเงินประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ บาท (สองแสนบาทถ้วน) กุฏิทั้ง ๓ หลังที่กล่าวมาท้ายนี้ ได้คุณเฉลียวช่วยอุปการะเงินหลังละ ๓๐,๐๐๐ บาท รวมทั้ง ๓ หลังเป็นเงิน ๙๐,๐๐๐ บาท (เก้าหมื่นบาทถ้วน) ๑๔. เมื่อปี ๒๕๑๘ ได้เริ่มก่อสร้างตึก ๒ ชั้น ข้างล่างเป็นหอฉัน ข้างบนเป็นที่ทำวัตรสวดมนต์ ได้เริ่มเทคานเทเสาด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ยังไม่สำเร็จได้มรณภาพเสียก่อน และต่อมารองเจ้าอาวาสเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างจนสำเร็จ โดยได้รับอุปการะจากคุณเฉลียวพร้อมด้วยคุณนาย ได้ช่วยเหลือเงินถึง ๓๔๕,๕๐๐บาท(สามแสนสี่หมื่นห้าพันห้าร้อยบาทถ้วน) ได้รับเงินส่วนตัวจากหลวงพ่อเตียงที่ยังมีชีวิตอยู่บ้าง และเมื่อท่านมรณภาพแล้วบ้าง เงินเหลือจากบำเพ็ญกุศลเมื่อตั้งศพอยู่บนศาลาการเปรียญเงินเหลือจากทำบุญ ๕๐วัน ๑๐๐วันและประชาชนที่นำมาใช้หนี้หลังจากท่านมรณภาพแล้วบ้างเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๕๐,๕๐๐ บาท(หนึ่งแสนห้าหมื่นห้าร้อยบาทถ้วน) กาลอวสานแห่งชีวิตหลวงพ่อมรณภาพด้วยอาการอันสงบเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ ตรงกับแรม๘ คํ่า เดือน ๔ เวลา ๙.๒๐ น. ณ โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพมหานคร หลังจากหลวงพ่อมรณภาพ คุณเฉลียวคุณนกเล็ก อยู่วิทยา เจ้าของบริษัท ทีซี. มัยซีน ได้นำศพของหลวงพ่อกลับมาตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดเขารูปช้างเมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ ถึงวัดเขารูปช้างเวลาประมาณ ๒๔.๐๐ น. และตั้งศพบำเพ็ญกุศล ๑๕ วัน ๑๕ คืน คณะกรรมการได้กำหนดทำบุญ ๑๐๐ วัน ในวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๒๐ ตรงกับขึ้น ๓ คํ่า เดือน ๘ รวมอายุได้ ๗๖ ปี ๒๒ วัน อภินิหารหลวงพ่อเตียงหลวงพ่อเตียงวัดเขารูปช้าง ชาวจังหวัดพิจิตรถือว่าเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่ง ถ้าศึกษาตามประวัติแล้ว จะทราบว่าหลวงพ่อได้เคยไปศึกษาทางวัตถุมงคล และทางไสยศาสตร์กับเจ้าอธิการปุ่น วัดดงกลาง ซึ่งเป็นอาจารย์สำคัญองค์หนึ่ง นอกจากหลวงพ่อเตียงจะไปศึกษาจากอธิการปุ่นแล้วหลวงพ่อยังได้ไปศึกษาทางวิปัสสนาธุระและวัตถุมงคลจากหลวงพ่อพิธวัดฆะมัง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตรอีกด้วย โดยเฉพาะหลวงพ่อพิธก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน อำเภอโพทะเลตะกรุดอภินิหารในการทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ของหลวงพ่อเตียง ที่วัดเขารูปช้างครั้งหนึ่ง หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วก็มีการจำหน่ายวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เคารพบูชาในตัวของหลวงพ่อได้มีของดีไปใช้ประจำตัว ในครั้งนี้ ได้มีนายชาญ รอดเกิด เป็นผู้หนึ่งที่มีความเลื่อมใสศรัทธาจึงมาเช่าตะกรุดของหลวงพ่อ ๑ ดอก เมื่อได้ตะกรุดแล้วก็เดินเข้าไปในตลาดเขารูปช้าง ในขณะนั้นเองนายชาญ ก็ถูกยิงหลายสิบนัดกระสุนไม่ถูกนายชาญแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ ว่านายชาญจะรอดตายมาได้ ทั้งนี้เพราะอภินิหารและ ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโดยแท้ ยิงไก่ไม่ดังเมื่อหลวงพ่อทำตะกรุดและสังวาลย์ ออกจำหน่ายครั้งแรกๆ ประชาชนยังไม่ค่อยเลื่อมใสจึงนำไปผูกคอไก่แล้วยิงด้วยปืนลูกซองปรากฏว่าไม่ดัง ข่าวการลองของไม่ดัง ปากต่อปากเล่าลือกันมากต่างก็พากันมาเช่าของหลวงพ่อไปใช้ประจำตัวเจ้าอธิการเทิ้มเล่าว่าตะกรุดของหลวงพ่อจำหน่ายดีมากรอดตายเพราะตะกรุดหลวงพ่อ วันหนึ่งนายอินทร์ คนดงกลาง ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อได้ขี่จักรยานออกมาจากบ้านเพื่อจะไปธุระที่บ้านท่าข่อย ต. เมืองเก่า ในขณะที่ขี่จักรยานมานั้นได้ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยปืนลูกซอง ถูกท้ายทอยด้านขวาล้มควํ่า แต่กระสุนไม่ระคายผิวหนัง คนร้ายคิดว่าตายแล้วก็หนีไป นายอินทร์ก็ลุกขึ้นกลับบ้าน ต่อมาแผลที่ถูกยิงถอนยวง เมื่อซักถามนายอินทร์ว่ามีอะไรดี นายอินทร์ตอบว่า มีตะกรุดของหลวงพ่อเตียงดอกเดียวเท่านั้น อภินิหารรูปหล่อได้มีราษฎรคนหนึ่งมีอาชีพขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง บ้านอยู่ ตำบลบางไผ่ อำเภอบางมูลนากได้มาที่วัดของหลวงพ่อและได้เช่ารูปหล่อไป ๑ องค์ เมื่อเช่าไปแล้วก็พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะมีอาชีพรับจ้างวันหนึ่งในขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์อยู่นั้น ได้ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยปืนยูเอสอาร์มี่ ถูกที่ด้านหลังปรากฏว่าเสื้อขาด แต่ไม่เข้าเพราะอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ รอดตายเพราะตะกรุดหลวงพ่อนายอุดม คำหมู่ ซึ่งเป็นหลานชายของเจ้าอธิการเทิ้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดเขารูปช้างปัจจุบัน เล่าว่า ในขณะที่นายอุดม อยู่บ้านตามลำพัง ได้มีพวกขโมยหลายคนเข้ามาในบ้านแล้วช่วยกันจับนายอุดม เมื่อถูก จับนายอุดมก็ร้องให้คนช่วย พวกขโมยเกิดโมโห ที่ว่านายอุดมร้องเสียวดังจึงควักปืนคอล์ซุปเปอร์ขนาด ๑๑ มม. ยิงนายอุดม หวังจะฆ่าปิดปากเสีย เสียงดังแซะ พวกขโมยก็สับนกปืนอีก ก็ไม่ดัง นายอุดมเมื่อเห็นว่าไม่ดังก็มีกำลังใจฮึดสู้พวกโจร แต่เนื่องจากนายอุดมเป็นคนรูปร่างเล็ก จึงสู้พวกโจรไม่ได้ พวกโจรก็ยิงอีกไม่ดังเช่นเคย เมื่อเห็นว่าไม่ดังแน่จึงช่วยกันปล้นนายอุดมเอาของดี ปรากฏว่าพวกขโมยได้ตะกรุดโทน ๓ ชั้น และเหรียญของหลวงพ่อไป นายอุดมคงเหลือแต่สายติดมืออยู่ พวกขโมยยิงอีกทีไม่ดังเช่นเคย เรื่องนี้เจ้าอธิการเทิ้มเป็นผู้ยืนยันว่าเป็นความจริง นายอุดม รอดตายมาได้ก็เพราะวัตถุมงคลของหลวงพ่อ แหวนของหลวงพ่อจ.ส.ต.รวม เป็นตำรวจสายตรวจประจำหมู่บ้านเขารูปช้าง ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากตลาดพิจิตรเพื่อจะมาเป็นสายตรวจประจำหมู่บ้านเขารูปช้าง ในขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์ใกล้จะถึงเขารูปช้างมีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงชนท้ายรถที่ จ.ส.ต. รวม ขับอยู่ ร่างของ จ.ส.ต. รวมกระเด็นลอยไปในอากาศรถจักรยานยนต์พังยับเยินแต่ตามร่างกายของ จ.ส.ต.รวมไม่มีบาดแผลอะไรเลย ปรากฏว่า จ.ส.ต.รวม ไม่ได้คล้องพระ แต่มีแหวนของหลวงพ่อสวมที่นิ้วเพียงวงเดียว ปัจจุบัน จ.ส.ต.รวมจะไม่ยอมถอดแหวน วงนี้เลยและนับถือหลวงพ่อเตียงอย่างมาก 
ชื่อร้าน : บูรพาจารย์3
เบอร์โทรศัพท์ : 0884009967
จำนวนคนเข้าชม   2,056 คน 


------------------------------------------------------------------------------------------------
การซื้อขายรายการวัถุมงคลใดๆ ก็ตาม เป็นการตกลงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย 
ผู้ซื้อต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนจะตกลงซื้อ ทางเว็บไม่รับผิดชอบหากมีข้อพิพาท หรือปัญหา จากการซื้อขายทั้งสิ้น